The Digital Forge: ทำไมการพิมพ์ 3 มิติต้องมีมากกว่า 3D Printer?

Date Post
29.01.2024
Post Views

แม้การเติมเนื้อวัสดุที่เป็นที่นิยมอย่าง 3D Printing จะแพร่หลายและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นในปัจจุบัน จนเรียกว่ามีทั้งตลาด Maker และตลาดอุตสากรรมที่แตกต่างกันขึ้นมา กลายเป็น Community ที่หลากหลายเกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วก็มีผู้ใช้งานอีกไม่น้อยที่ไม่ประสบความสำเร็จในการใช้งาน กลายเป็นการปล่อยทั้งทุนและโอกาสให้หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเรื่องของ 3D Printing นั้นไม่ได้มีแค่ 3D Printer แล้วจะจบ แต่ยังต้องรู้จักกับ Ecosystem อื่น ๆ ที่มีรายละเอียดแตกต่างกันไปทั้งในด้านวิศวกรรมและการออกแบบอีกด้วย

ทีมงาน X3D ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับบริษัทและองค์กรหลากหลายระดับ พบว่ามีหลายแห่งที่ซื้อ 3D Printer ประเภท Kit, DIY, Hobby ไปใช้ได้ไม่นานก็ปล่อยไว้เฉย ๆ หรือขายทิ้ง เหตุผลหลัก คือ ไม่สามารถพิมพ์งานที่นำไปใช้จริงได้ แม้กระทั่งการทำงานต้นแบบก็ยังมีอุปสรรค เช่น ปัญหาด้านคุณภาพชิ้นงานที่ไม่เป็นไปตามคาด พิมพ์งานเสียบ่อย ใช้งานยาก เครื่องเสียไม่มีคนซ่อม ไม่เข้าใจปัญหาของวัสดุ หรือแม้กระทั่งการใช้งานโปรแกรมที่เกี่ยวข้องอย่าง Slicer ก็ดูยากเย็นแสนเข็ญเสียเหลือเกิน

แม้ 3D Printer แบบราคาถูกจะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงกว้างหรือตลาดผู้บริโภคทั่วไป แต่ลูกค้าที่ต้องการใช้งานในภาคธุรกิจอาจต้องจ่าย ‘ค่าเสียโอกาส’ ที่มีราคาแพงกว่าราคาเครื่องหลายเท่า ลองคิดดูว่าหากบริษัทผู้ผลิตต้องใช้งานเครื่องจักรที่มีปัญหาบ่อยจนการผลิตสะดุดจะทำให้ความเสียหายทางธุรกิจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน ต้องเสียเวลาและค่าแรงพนักงานไปกับการซ่อมเครื่อง เสียโอกาสในการขายเนื่องจากส่งงานให้ลูกค้าล่าช้า หรือในกรณีที่งานไม่ได้คุณภาพก็อาจถูกปฏิเสธชิ้นงานหรือในกรณีร้ายแรงสุดอาจต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับค่าเสียโอกาสของลูกค้าอีกต่อหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทฯ จึงนำเสนอ 3D Printer จาก Markforged โซลูชันเครื่องพิมพ์ 3 มิติสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ ที่ใช้แนวคิดการพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มที่ครบวงจร (Digital Forge Platform) รวมถึงเครื่องพิมพ์ วัสดุ ซอฟต์แวร์ และบริการหลังการขาย ที่ออกแบบและคิดมาเป็นอย่างดีในทุกขั้นตอน ช่วยให้ลูกค้าแก้ปัญหาในการผลิตได้จริงและมีผลตอบแทนการลงทุนเป็นบวก และเราจะพาคุณไปรู้จักกับจุดเด่นหลักที่ควรพิจารณาสำหรับลูกค้าที่เป็นบริษัทหรือโรงงานผู้ผลิตโดยเฉพาะ!

Benefits at a Glance

‘ความแข็งแกร่งเหนือระดับ’ Markforged เป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3 มิติเพียงหนึ่งเดียวที่ใช้เทคโนโลยี Continuous Fiber Reinforcement หรือการพิมพ์ชิ้นงานเสริมเส้นใยคอมโพสิตแบบเส้นยาวต่อเนื่อง ให้ความแข็งแกร่งสูงกว่าอลูมิเนียม 6061-T6

‘มีความเสถียรระดับอุตสาหกรรม’ มั่นใจทุกครั้งที่กดพิมพ์ ใช้งานได้แบบไม่ต้องมีคนเฝ้าหน้าเครื่อง มีระบบเซนเซอร์คอยตรวจเช็คสภาพเครื่องพิมพ์แบบอัตโนมัติ อัตราการพิมพ์งานสำเร็จสูงกว่า 99%

‘เครื่องเดียวจบทั้งงาน Prototype และ Production’ ครบจบทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่งานออกแบบ ชิ้นส่วนประกอบไลน์ผลิต จนถึงชิ้นส่วน Final Part เครื่องพิมพ์ 3 มิติ Markforged ให้คุณภาพที่ตอบโจทย์งานได้ทุกระดับ

‘ระบบตรวจสอบคุณภาพแบบ Built-in’ เช็คความแม่นยำของชิ้นงานพิมพ์ 3 มิติง่ายเพียงกดปุ่ม ด้วยระบบ Laser Inspection ภายในเครื่องพิมพ์ สแกนผิวงานเทียบไฟล์ต้นแบบพร้อมสร้าง Report อัตโนมัติ ให้ความแม่นยำสูงสุด

‘มาตรฐานซอฟต์แวร์ระดับองค์กร’ ใช้งานง่ายด้วยระบบบริหารจัดการเครื่องพิมพ์ผ่าน Cloud พร้อมคลังข้อมูลชิ้นส่วนแบบ Digital Inventory และฟังก์ชันการจัดการซอฟต์แวร์ขั้นสูง เช่น Dashboard, Role-Based Access Control, MFA (Multi-Factor Authentication), SSO (Single Sign On), Custom Analytics, Open APIs

‘แพลตฟอร์ม 3D Printer หนึ่งเดียวที่ขับเคลื่อนด้วย AI Fleet Learning’ โดยใช้ข้อมูลจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติกว่า 10,000 เครื่องในเครือข่ายและการพิมพ์งานกว่า 10 ล้านครั้ง นำมาพัฒนาซอฟต์แวร์และกระบวนการพิมพ์งาน ทำให้เครื่องพิมพ์ Markforged ชาญฉลาดและมีความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผ่าน OTA (Over-The-Air) ซอฟต์แวร์อัปเดต

‘รับรองมาตรฐานสากล ISO/IEC:27001 และ ISO:9001’ แพลตฟอร์ม Digital Forge ได้รับการรับรองความปลอดภัยด้วยมาตรฐานสากลระดับโลก เป็นรายแรกที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO/IEC:27001 ในหมวดความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ พร้อมการรับรอง ISO:9001 สำหรับระบบมาตรฐานการบริหารคุณภาพ

พิมพ์ชิ้นส่วน Carbon Fiber แข็งแกร่งเหมือนอลูมิเนียม

วัสดุแข็งแรงกว่าก็รองรับงานได้มากกว่า พิมพ์ชิ้นงานเสริม Carbon Fiber แบบ Continuous Fiber Reinforcement (CFR) ให้ชิ้นงานที่น้ำหนักเบาเหมือนพลาสติก แต่แข็งแกร่งเหมือนโลหะที่ 3D Printer ทั่วไปไม่สามารถทำได้ รับแรงได้มากกว่าวัสดุ Carbon Fiber ทั่วไปกว่า 10 เท่า การเลือกผลิตชิ้นงานด้วย Markforged 3D Printer มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่รุ่น Desktop, Industrial และ Production (FX20)

โซลูชัน Metal 3D Printer สำหรับบริษัท SME

การพิมพ์ 3 มิติด้วยวัสดุโลหะขึ้นชื่อว่าเป็นเทคโนโลยีที่ราคาแพงและใช้งานยาก ปัจจุบันเทคโนโลยีแบบใหม่เช่น Metal Fused Filament Fabrication (Metal FFF) ได้เข้ามาเปลี่ยนอุตสาหกรรม เป็นกระบวนการพิมพ์ 3D โลหะที่รวดเร็ว ใช้งานง่าย และราคาถูก สามารถผลิตงานได้โดยไม่ต้องใช้ Tool หรือแม่พิมพ์

เครื่องพิมพ์ Markforged Metal X 3D Printer สามารถขึ้นรูปโลหะหลายประเภท เช่น Stainless Steel, Tool Steels, Copper, Inconel โดยใช้วัตถุดิบชนิดเส้นลวด ใช้งานได้ปลอดภัยกว่าเครื่องพิมพ์โลหะชนิดวัสดุผง ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันพิเศษ

เพิ่มพลังการผลิตชิ้นส่วนโลหะด้วย Digital Metal Binder Jetting

Markforged ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Digital Metal ผู้นำเทคโนโลยี 3D Printer ชนิด Binder Jetting ระดับโลก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนโลหะจำนวนมาก ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถพิมพ์งานที่มีความซับซ้อนสูงหลักพันชิ้นต่อวัน นำสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น มีความยืดหยุ่นสูง โดยไม่ต้องขึ้นไลน์ผลิตใหม่หรือจ้าง Supplier

ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายและปลอดภัยที่สุด

ควบคุมสั่งงานเครื่องพิมพ์ 3 มิติได้อย่างง่ายดายด้วย Eiger Software ซอฟต์แวร์เครื่องพิมพ์ 3 มิติระดับองค์กร

  • เชื่อมต่อผ่าน Cloud สั่งพิมพ์งานได้จากทุกที่ในโลก เพียงคลิกไม่กี่ครั้ง
  • เชื่อมต่อกับระบบ MES และ ERP ของบริษัทด้วย Open APIs
  • รับรองความปลอดภัยด้วยมาตรฐานสากล ISO/IEC:27001
  • BI Dashboard, Custom Analytics และ Reporting Tools สรุปภาพรวมการใช้งานทั้งองค์กร วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างละเอียด
  • เพิ่มความมั่นใจก่อนการพิมพ์งาน ด้วย Simulation ทดสอบความแข็งแรงของชิ้นงาน พร้อมให้คำแนะนำการตั้งค่าที่เหมาะสม
  • เพิ่มความมั่นใจหลังการพิมพ์งาน ด้วย Inspection ตรวจสอบความแม่นยำของชิ้นงานอัตโนมัติด้วย AI

สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามเกี่ยวกับ 3D Printer ติดต่อบริษัท พลวัตร จำกัด
Website: https://x3dtechnology.com/
Tel: 087-509-0541, 092-265-4901
Line: @x3dprint
Email: [email protected]

Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire