Saturday, July 27Modern Manufacturing
×

สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรก ปี 2566 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.7 

สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรก ปี 2566 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.7 

กรมธุรกิจพลังงาน เผย สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรก ปี 2566 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.7  พร้อมเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาถังก๊าซหุงต้ม

สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรก ปี 2566 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.7 

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรก ของปี 2566 (เดือนมกราคม – มิถุนายน) เฉลี่ยอยู่ที่ 156.74 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 2.7 และคาดว่าภาพรวมทั้งปีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ  

สถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีแรก ปี 2566 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.7 

โดยครึ่งปีแรก การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.96 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.9 การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 72.30 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.7 เนื่องด้วยปัจจัยด้านราคา 

เวียดนามเตรียมฝึกฝนวิศวกร เสริมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ

ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง โดยภายหลังจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาท/ลิตร สิ้นสุดลงในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 จะอาศัยกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป 

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 13.45 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 80.9 จากการฟื้นตัวของการเดินทางทางอากาศภายหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย การใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เฉลี่ยอยู่ที่ 17.69 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.4 โดยส่วนใหญ่มาจากการใช้ลดลงในภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีร้อยละ 4.2 

ทั้งนี้กรมฯคาดการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งปีหลัง ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2 

จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปรับตัวของธุรกิจที่พึ่งพาการขนส่งมากขึ้น โดยน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 น้ำมันดีเซลปรับลดลงร้อยละ 1.9 น้ำมัน JET A1 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.6 และ LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 โดยการคาดการณ์ของกรมยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 

นอกจากนี้ ยังคาดว่าการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยปี 2566 ในภาพรวมยกเว้นน้ำมัน JET A1 จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 เนื่องจากธุรกิจการบินอยู่ระหว่างการฟื้นฟู และการเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดการเดินทางไกล

สำหรับการแก้ไขปัญหาระบบการค้าและความปลอดภัยก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน หรือ (ก๊าซหุงต้ม) กรมธุรกิจพลังงานโดยคณะทำงานแก้ไขปัญหาก๊าซปิโตรเลียมเหลวในภาคครัวเรือน ได้จับมือร่วมกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทาน เพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน ประกอบด้วย 1. กำหนดมาตรฐานและคุณภาพถังก๊าซหุงต้ม  โดยกรม ผู้ค้าก๊าซหุงต้ม และผู้แทนโรงบรรจุและร้านจำหน่าย ร่วมกันพิจารณาเกณฑ์การคัดสภาพถังกลาง เพื่อใช้เป็นแนวทางดำเนินการร่วมกัน พร้อมทั้งขอให้โรงบรรจุรับคืนถังเสื่อมสภาพจากร้านจำหน่าย เพื่อส่งผู้ค้าฯ ดำเนินการต่อไป 

2. มาตรการด้านกฎหมายความปลอดภัยโรงบรรจุและร้านจำหน่าย จัดทำขั้นตอนการตรวจตราและบันทึกการตรวจสอบ (Checklist) พร้อมซักซ้อมความเข้าใจสำนักงานพลังงานจังหวัดทั่วประเทศ 3. มาตรการด้านกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานความร่วมมือสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกรมทรัพย์สินทางปัญญา (ทป.) จัดทำขั้นตอนการดำเนินการเมื่อพบถังไม่ได้คุณภาพ 4. การร้องเรียนและการสื่อสารประชาสัมพันธ์ จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อยู่ระหว่างหารือผู้ค้าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดตั้ง Hotline รับเรื่องร้องเรียน คาดจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนกันยายน 2566 

5. การเพิ่มประสิทธิภาพการเรียกเก็บและการซ่อมถังก๊าซหุงต้ม กรมได้ขอความร่วมมือผู้ค้าฯ ที่มีศักยภาพซ่อมถัง ให้เปิดรับบริการผู้ค้าฯ รายอื่น เพื่อลดข้อจำกัดการขนส่งและระยะเวลาการซ่อม ตลอดจนการประสานความร่วมมือเรียกเก็บถังทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ ซึ่งแนวทางอยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดร่วมกับผู้ค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการภายในเดือนตุลาคม 2566  6. การแก้ไขปัญหาการลักลอบเติมถังก๊าซหุงต้มในสถานีบริการ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและลดการกระทำผิด กรมได้กำหนดอัตราปรับเต็มขั้น และกำชับพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ออกตรวจตราเข้มข้นมากขึ้น

กรมธุรกิจพลังงานยืนยันเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาถังก๊าซหุงต้มทั้งระบบโดยประสานความร่วมมือภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความมั่นใจด้านคุณภาพและความปลอดภัยให้ประชาชน และให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วนโดยยึดประโยชน์ของภาคประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งกรมได้ประสานผู้ค้า ตัวแทนร้านจำหน่ายก๊าซ และตัวแทนโรงบรรจุ ตลอดจนพลังงานจังหวัดทั่วประเทศสร้างความรู้ความเข้าใจการดำเนินการที่ถูกต้อง  เพิ่มความถี่การตรวจตราและติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กรมจะรายงานความคืบหน้าแจ้งต่อสาธารณะเป็นระยะ ต่อไป

Nichaphan W.
PR Marketing
Public Relations Marketing
READ MORE
×