นักวิจัยพัฒนาการพิมพ์ 3 มิติสำหรับชีสเค้กได้แล้ว

นักวิจัยจาก Columbia University พัฒนาการพิมพ์ 3 มิติที่ใช้พิมพ์ชีสเค้กขึ้นมาโดยวัตถุดิบหลักเป็นวัตถุดิบสำหรับ Vegan ซึ่งการพิมพ์ 3 มิติในครั้งนี้เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีด้านเลเซอร์กับการเติมเนื้อวัสดุอีกด้วย

การพิมพ์ 3 มิตินั้นเป็นเหมือนความหวังและโอกาสใหม่ ๆ สำหรับผู้คนจำนวนมาก นักวิจัยและวิศวกรจึงได้พยายามพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ เพื่อก้าวข้ามความท้าทายเดิมที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้อย่างเฟอร์นิเจอร์ รองเท้า อวัยวะ ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงจรวด และอุตสาหกรรมอาหารก็เป็นหนึ่งในความท้าทายที่มีความพยายามในการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

นักวิจัยจาก Columbia University ได้พัฒนาการพิมพ์ 3 มิติสำหรับผลิตขนมหวานอย่างชีสเค้กที่มีความท้าทายแตกต่างจากขนมหวานหรืออาหารชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของเนื้อสัมผัส ความยืดหยุ่นและการคงตัว มีการใช้วัตถุดิบ Vegan มากถึง 7 ชนิดเพื่อปรุงขึ้นมา

การเติมเนื้อวัสดุสำหรับอาหารนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารจากพืช แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปในการพัฒนาครั้งนี้ คือ การใช้เลเซอร์ในการปรุงอาหารขณะพิมพ์ การใช้ความร้อนที่เกิดข้นจะทำให้วัตถุดิบเปลี่ยนสถานะจากกึ่งเหลวคล้ายแป้งเปียกไปเป็นของแข็งซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญของการอบขนมที่เกิดขึ้น เช่น การทำ Souffle เป็นต้น

ในการพัฒนาที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ค้นพบการอบขนมด้วยเลเซอร์และพัฒนาเครื่องที่สามารถใช้วัตถุดิบได้ถึง 18 แบบ โดยพิมพ์และอบอาหารได้พร้อม ๆ กัน มีความสามารถในการทำงานในระดับมิลลิเมตรหรือเรียกได้ว่าแม่นยำกว่าใช้เตาอบหรือตั้งเตาเสียอีก ในการทดสอบตัวอย่างที่เกิดขึ้นนั้นได้มีการใช้รสเชอร์รี่ กล้วย เนยถั่วและเฮเซลนัทสเปรด โดยเค้ก 1 ชิ้นเล็กจะใช้เวลาพิมพ์ 30 นาที

แม้ว่าในปัจจุบันการใช้งานการพิมพ์ 3 มิติกับอาหารนั้นจะยังไม่แพร่หลายเพราะมีราคาต้นทุนที่สูงมาก แต่ในอนาคตเมื่อมีตลาดที่กว้างขึ้นและการใช้งานที่มากขึ้นการพิมพ์อาหาร 3 มิติสามารถกลายเป็นเรื่องทั่วไปที่พบได้ไม่แตกต่างจาก iPod เลยทีเดียว

ที่มา:
cnn.com